โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย การรักษาและคำแนะนำป้องกันของโรค

ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) จะมีชื่อเรียกว่าโลหิตจางหรือที่เรียกว่าเลือดจาง หรือโรคซีด เป็นโรคชนิดหนึ่งที่เกิดจากเม็ดเลือดแดงผิดปกติ โดยการถ่ายทอดจากพ่อแม่ทางกรรมพันธุ์ พบมากในประเทศไทย

โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย มี 2 แบบ

1. คนที่เป็นพาหะโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย คือ ผู้ที่มีพันธุกรรมผิดปกติแฝงอยู่ ผู้ที่เป็นพาหะจะมีสุขภาพดีเหมือนคนทั่วไป แต่สามารถถ่ายทอดโรคนี้ต่อให้ลูกได้ มนประเทศไทยมีผู้เป็นพาหะประมาณ 18 ล้านคน

2. คนที่เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย จะมีอาการซีด ตาเหลือง ตับ ม้ามโต ใบหน้าละเปลี่ยน คือจมูกแบน กระโหลกศรีษะหนาโหนกแก้มสูง คางและกระดูก ขากรรไกรกว้างใหญ่ ฟันบนยื่น รวมทั้งกระดูกบาง เปราะหักง่าย ผิวหนังดำคล้ำ ร่างกายเติบโตช้ากว่าคนปกติ ในประเทศไทยมีผู้เป็นโรคประมาณ 5 แสนคน

โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย แบ่งได้หลายชนิด บางชนิดรุนแรงมาก ทำให้ทารกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หรือหลังคลอดไม่เกิน 1 วัน บางชนิดทำ ให้ผู้ป่วยซีดมาก ต้องให้เลือดเป็นประจำ บางชนิดแทบไม่มีอาการผิดปกติเลย


โอกาสเสี่ยงของการมีลูกเป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

ถ้าทั้งพ่อแม่เป็นพาหะ โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคเท่ากับ 25% หรือ 1 ใน 4 โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะเท่ากับ 50% หรือ 2 ใน 4 โอกาสที่ลูกปกติสมบูรณ์เท่ากับ 25% หรือ 1 ใน 4

ถ้าพ่อหรือแม่เป็นพาหะคนเดียว โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะเท่ากับ 50% หรือ 1 ใน 2 โอกาสที่จะมีลูกปกติเท่ากับ 50% หรือ 1 ใน 2


ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นพาหะของโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

  • ถ้ามีญาติ พี่ น้องเป็นโรคนี้ ก็มีโอกาสที่จะเป็นพาหะสูง
  • ถ้าคู่สามี-ภรรยา มีลูกเป็นโรคนี้ แสดงว่าทั้ง 2 คนเป็นพาหะ
  • ถ้าผู้ป่วยที่เป็นโรคมีลูก ลูกทุกคนต้องเป็นพาหะแน่นอน


เราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นพาหะของโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

  • ดูจากประวัติครอบครัว
  • จากการตรวจเลือดด้วยวิธีพิเศษ


เด็กที่เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย มีอาการอย่างไร

เด็กที่เป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย จะมีอาการ ซีด ตาเหลือง ตัวเหลือง ตับโต ม้ามโต แคระแกรน หน้าตาอาจเปลี่ยนแปลง จมูกแบน ฟันบนยื่น และท้องป่อง ร่างกายเติบโตช้ากว่าปกติ กระดูกเปราะหักง่าย จะเจ็บป่วยบ่อยๆ ทำให้ขาดเรียนเป็นประจำ ทั้งยังเป็นภาระของครอบครัว เพราะจะต้องเสียเงินค่าดูแลรักษาพยาบาลไปอีกนาน เพราะโรคนี้รักษายาก


การรักษาผู้ป่วยโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

รักษาสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง รับประทานวิตามินโฟลิควันละเม็ด ห้ามรับประทานยาบำรุงที่มีธาตุเหล็ก แพทย์จะให้เลือดเมื่อมีอาการซีดมากและมีอาการเหนื่อย ผู้ป่วยที่ต้องให้เลือดบ่อยและม้ามโตมาก แพทย์จะแนะนำให้ตัดม้าม ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงซีดมากต้องให้เลือดบ่อยจะมีภาวะธาตุเหล็กเกิน ต้องฉีดยาขับเหล็กเช่น เดสเฟอร์ริอ๊อกซามีน ออกจากร่างกาย


คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

แม้ว่าโรคโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ยังรักษาให้หายขาดไม่ได้ ผู้ป่วยไม่ควรตื่นตกใจเพราะบางรายอาจมีอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยควรรับประทานผักดิบ ไข่ นม มากๆ ดื่มน้ำชาหลังอาหารเพื่อลดการดูดซึมธาตุเหล็ก ควรตรวจฟันทุก 6 เดือน เนื่องจากฟันผุง่าย หลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือการเล่นรุนแรง งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา ถ้ามีอาการปวดท้องที่ชายโครงขวารุนแรงมีไข้และเหลืองมากขึ้น แสดงว่าถุงน้ำดีอักเสบ ควรไปพบแพทย์อาจเป็นโรคติดเชื้อรุนแรงได้ง่าย เมื่อมีไข้สูงควรเช็ดตัวกินยาลดไข้และยาปฏิชีวนะแล้วไปพบแพทย์


คำแนะนำสำหรับผู้เป็นพาหะโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

ผู้เป็นพาหะสามารถถ่ายทอดโรคนี้ไปสู่ลูกได้ จึงควรวางแผนก่อนมีลูก เพื่อหลีกเลี่ยงการมีลูกเป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ควรพาคู่สมรสไปตรวจเลือดก่อนมีลูก ถ้าคู่สามีภรรยาเป็นพาหะทั้งสองคน เมื่อตั้งครรภ์ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทารกก่อนคลอด ผู้เป็นพาหะควรแนะนำให้ญาติ พี่ น้อง ไปตรวจเลือดด้วย


คำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไป

การที่ร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดี ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันว่าท่านไม่ได้เป็นพาหะของโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ดังนั้นเพื่อป้องกันการมีลูกเป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ควรไปตรวจเลือดก่อนที่ท่านจะวางแผนการแต่งงานหรือวางแผนการมีบุตรต่อไป

แสดงความเห็น

comments